
การนับถือศาสนา หรือ ความเชื่อใดๆก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ต้องมีเลยก็คือ หลักความเชื่อ หลักปฏิบัติของศาสนานั้น เพื่อให้ทุกคนดำเนินชีวิตเป็นคนดีมีความสุขตามแนวทางของต้น อย่างศาสนาคริสต์เองแม้จะมีหลายนิกายแยกออกไปตามความเชื่อแต่สิ่งหนึ่งที่พวกเค้ายึดถือปฏิบัติร่วมกันก็คือ กฎบัญญัติ 10 ประการของศาสนาคริสต์ กฎนี้มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง
บัญญัติชุดนี้มาจากไหน
สำหรับบัญญัติ 10 ประการของศาสนาคริสต์ เดิมทีไม่ได้เป็นบัญญัติตายตัว(เพิ่งจะมาปรับใช้กันทีหลัง) โดยคัดเอาเนื้อหามาจากคัมภีร์ฮีบรู ในหนังสืออพยพ และ หนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ ทีนี้การบัญญัติดังกล่าวทั้ง 10 มีการตีความแตกต่างกันไปโดยเราแบ่งออกเป็น 3 ฉบับก็คือ ฉบับลูเทอแรน, ฉบับคาทอลิก และ ฉบับโปรแตสแตนต์ ซึ่งทั้งสามฉบับมีการแปลเป็นภาษาไทยไว้ด้วย โดยเนื้อหาของทั้ง 10 มีหลักดังนี้
ข้อหนึ่ง นับถือพระเจ้าพระองค์เดียว
ข้อแรกจะพูดถึงความเชื่อในเรื่องพระเจ้าเอาไว้ว่า ห้ามมีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา มีพระเจ้าเพียงแค่พระองค์เดียว ข้อนี้ตีความหมายเพื่อให้เหล่าผู้นับถือปฏิบัติต่อพระเจ้าองค์เดียวในทางเดียวกัน เพื่อจะได้ลดข้อขัดแย้งเปรียบเทียบระหว่างพระเจ้าองค์หนึ่ง กับอีกองค์หนึ่งอันจะมาสู่ความขัดแย้งในอนาคตได้
ห้ามทำรูปเคารพเพื่อนมัสการขึ้นมาเอง
ข้อนี้ความหมายก็คือ ห้ามทำรูป รูปปั้น หรืออะไรก็ตามเพื่อนมัสการขึ้นมาเอง แนวคิดดังกล่าวนี้ตีความว่าพระเจ้าทรงอยู่เหนือจินตนาการของเราทั้งหมดทั้งมวลจะกล่าวถึงได้ ดังนั้นการไม่สามารถรูปปั้นจะเป็นการรักษาเกียรติของพระเจ้าได้สูงสุด สองการรัก, ศรัทธาพระเจ้าควรเกิดจากสิ่งที่อยู่ในใจจริงๆไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอก
ไม่ควรใช้พระนามพระเจ้าในทางที่ผิด
พระเจ้าถือว่าเป็นชื่อ เป็นพระนามที่มีความหมายต่อคริสต์ชนอย่างมาก เพราะเป็นศูนย์รวมใจของผู้นับถือศาสนาดังกล่าว แน่นอนว่าเมื่อเป็นเชื่อที่มีความสำคัญย่อมทำให้มีบางคนเอาพระนามของท่านไปใช้ในทางที่ผิดด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม จึงมีการบัญญัติขึ้นมาว่าห้ามนำพระนามของพระเจ้าไปใช้ในทางที่ผิด
ชาวคริสต์ทุกคนต้องระลึกถึงวันสะบาโต
บัญญัติข้อนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากทีเดียว เพราะเป็นบัญญัติที่ทำให้ชาวคริสต์ทุกคนต้องมีกิจกรรมร่วมกันนั่นก็คือ การไปโบสถ์ เนื้อหาของบัญญัติของนี้กล่าวว่าจงระลึกวันสะบาโต ให้เป็นวันบริสุทธิ์ โดยวันดังกล่าวให้ถือว่าเป็นวันที่เจ็ดของสัปดาห์ แล้วให้ทุกคนไปพักผ่อน ปรนนิบัตรพระเจ้า
จงให้เกียรติแก่บิดา มารดาของเจ้า
บัญญัติของนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก สอดคล้องกับหลักแนวคิดของหลายศาสนา แนวคิดของบัญญัตินี้ก็คือ จงให้เกียรติแก่บิดา มารดาของของตัวเอง โดยเราต้องแสดงออกด้วยการกระทำที่ถูกต้อง แสดงถึงความเมตตา กรุณา ให้เกียรติ เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดามารดาของตน บัญญัตินี้ห้ามถึงการแสดงถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมกับบิดามารดาอีกด้วย
ห้ามฆ่าคน
บัญญัติข้อนี้ก็ตรงตัวเลย ถือว่าเป็นบัญญัติที่สำคัญอย่างมากทั้งศีลธรรม และ กฎหมายทางสังคม บัญญัติข้อนี้ความหมายว่าห้ามทำลายชีวิตของคนด้วยกัน หากใครผิดบัญญัติข้อนี้อาจจะมีโทษถึงตายเลยทีเดียว บัญญัติข้อนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ค้ำจุนสังคมให้ปลอดภัย
ห้ามล่วงประเวณี
อีกหนึ่งบัญญัติที่คล้ายกับศีลห้าเรา นั่นก็คือ ห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเข้า ตรงนี้พูดถึงรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวข้องกับบาปทางเพศ เรื่องนี้พระเจ้ามองว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ
ห้ามลักขโมย
บัญญัติข้อนี้ก็ตามชื่อเลย ไม่ว่าจะเป็นการห้ามขโมยเงิน ทอง สิ่งของมีค่าของผู้อื่น อธิบายความถึงการโกงด้วย บัญญัติข้อนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อที่ช่วยเหลือให้คนซื่อสัตย์ต่อกันในสังคม
ห้ามเป็นพยานเท็จใสร้าย
บัญญัติข้อนี้อธิบายความว่า ห้ามทำใส่ร้ายเพื่อนบ้าน ตรงนี้อธิบายความถึงเรื่องการโกหกด้วย บัญญัตินี้จะช่วยเหลือเรื่องการสื่อสารต่อกันในทางที่ดีมากขึ้น และอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
ห้ามโลภ
บัญญัติข้อที่สิบ พูดถึงการห้ามโลภ อย่าอยากได้ทรัพย์สินเงินทองของผู้อื่น บัญญัติข้อนี้จะช่วยให้การอยู่ร่วมกันมีความสุขมากขึ้น ไม่ต้องห่วงสิ่งของว่าจะหาย สังคมก็จะมีความสุข บัญญัติ 10 ข้อนี้นอกจากด้านศีลธรรมแล้วยงเหตุว่ายังเป็นเครื่องมือช่วยค้ำจุนสังคมด้วย